เคล็ดลับทำความสะอาดกระจก ให้ใสเหมือนใหม่
เคล็ดลับทำความสะอาดกระจก ให้ใสเหมือนใหม่
กระจกเป็นวัสดุที่พบเห็นได้ทั่วไปในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกระจกหน้าต่าง กระจกห้องน้ำ กระจกตกแต่งผนัง หรือกระจกเงาในห้องแต่งตัว แต่การรักษาความใสสะอาดของกระจกให้เหมือนใหม่อยู่เสมอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกระจกมักมีคราบสกปรก ฝุ่นละออง คราบน้ำ คราบสบู่ และรอยนิ้วมือเกาะอยู่เสมอ หากละเลยการทำความสะอาดเป็นเวลานาน จะทำให้กระจกดูหมอง ไม่เงางาม และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบ้านโดยรวมได้
มาดูเคล็ดลับและวิธีการทำความสะอาดกระจกให้ใสเหมือนใหม่ พร้อมแนะนำอุปกรณ์และสูตรทำความสะอาดกระจกจากของใช้ในบ้านที่สามารถทำเองง่ายๆ กันดีกว่า
ทำไมกระจกจึงดูหมองเร็ว?
ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการทำความสะอาด เรามาดูสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้กระจกหมองหรือสกปรกก่อน เพื่อจะได้ป้องกันและดูแลอย่างถูกวิธี
- ฝุ่นละอองในอากาศ ฝุ่นมักเกาะกระจกได้ง่าย โดยเฉพาะกระจกหน้าต่างหรือกระจกที่ติดตั้งใกล้ทางเดิน
- คราบน้ำและคราบสบู่ โดยเฉพาะในห้องน้ำที่กระจกโดนน้ำบ่อย คราบแร่ธาตุจากน้ำ (เช่น แคลเซียม) จะทิ้งคราบขาว ๆ ไว้
- รอยนิ้วมือ เมื่อจับหรือสัมผัสกระจกบ่อย ๆ จะเกิดรอยมัน ๆ จากน้ำมันบนผิวหนัง
- ละอองน้ำมันและเขม่าควัน หากกระจกอยู่ใกล้ห้องครัว ละอองน้ำมันและเขม่าควันจะทำให้กระจกเหนียวและดูหมอง
อุปกรณ์พื้นฐานที่ควรเตรียม
ก่อนเริ่มทำความสะอาด ควรเตรียมอุปกรณ์ต่อไปนี้ให้พร้อม:
- ผ้าสะอาดไมโครไฟเบอร์
- สเปรย์ฉีดน้ำหรือขวดสเปรย์เปล่า
- น้ำเปล่าหรือน้ำอุ่น
- น้ำส้มสายชู (ชนิดกลั่นใส)
- น้ำยาล้างจาน
- แอลกอฮอล์เช็ดกระจก
- กระดาษหนังสือพิมพ์ (สำหรับคนที่นิยมวิธีแบบดั้งเดิม)
- ไม้ปาดกระจก (squeegee)
- เบกกิ้งโซดา (สำหรับคราบฝังแน่น)
- ถุงมือยาง (หากผิวแพ้ง่าย)
สูตรน้ำยาทำความสะอาดกระจกแบบโฮมเมด
1. สูตรน้ำส้มสายชู + น้ำเปล่า
ส่วนผสม: น้ำส้มสายชู 1 ส่วน + น้ำเปล่า 1 ส่วน
วิธีใช้: เทส่วนผสมใส่ขวดสเปรย์ ฉีดลงบนกระจก แล้วเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
2. สูตรแอลกอฮอล์ + น้ำส้มสายชู + น้ำเปล่า
ส่วนผสม: แอลกอฮอล์ ½ ถ้วย + น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย + น้ำเปล่า 1 ถ้วย
วิธีใช้: ฉีดบนกระจกแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หรือหนังสือพิมพ์
3. สูตรเบกกิ้งโซดา สำหรับคราบฝังแน่น
ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเล็กน้อยให้เป็นเนื้อครีม
ใช้ฟองน้ำจุ่ม แล้วขัดบริเวณที่มีคราบ
ล้างออกด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง
ขั้นตอนการทำความสะอาดกระจกอย่างถูกวิธี
1. เตรียมพื้นผิว
ใช้ผ้าสะอาดแห้งเช็ดฝุ่นที่เกาะกระจกออกก่อน เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
หากกระจกมีคราบน้ำหรือคราบสบู่หนา ให้พรมน้ำอุ่นแล้วปล่อยทิ้งไว้สักพักเพื่อให้คราบอ่อนตัว
2. ฉีดน้ำยาทำความสะอาด
ฉีดน้ำยาลงบนกระจกโดยตรง หรือบนผ้าไมโครไฟเบอร์ (หากกระจกตั้งอยู่แนวตั้งสูง)
หลีกเลี่ยงการใช้ฟองน้ำหยาบหรือสก็อตไบรท์ เพราะอาจทำให้กระจกเป็นรอย
3. เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
เช็ดเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง ไม่ควรถูเป็นวงกลม เพราะจะทิ้งรอยคราบไว้
หากใช้ไม้ปาดกระจก ให้ปาดจากบนลงล่าง แล้วเช็ดขอบไม้ทุกครั้งหลังใช้งาน
4. เช็ดให้แห้ง
หลังเช็ดกระจกด้วยน้ำยาแล้ว ควรเช็ดแห้งทันทีเพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำ
สามารถใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าเช็ดซ้ำ เพื่อเพิ่มความเงา
เคล็ดลับพิเศษในการทำความสะอาดกระจก
ใช้น้ำอุ่นแทนน้ำเย็น
น้ำอุ่นช่วยละลายคราบมันได้ดีกว่า โดยเฉพาะกระจกที่อยู่ใกล้ครัว
เช็ดกระจกในวันที่มีแสงธรรมชาติเพียงพอ
เพื่อให้มองเห็นคราบสกปรกหรือรอยได้ชัดเจน
หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดกระจกตอนแดดจัด
เพราะน้ำยาจะแห้งเร็วเกินไป ทิ้งคราบไว้บนกระจก
ป้องกันกระจกจากคราบน้ำ
หลังทำความสะอาด สามารถทาน้ำยาเคลือบกันน้ำ หรือใช้น้ำยาเคลือบรถยนต์บาง ๆ เพื่อให้หยดน้ำไหลออกเร็วและไม่ทิ้งคราบ
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้วัสดุที่มีผิวหยาบในการขัดกระจก เพราะอาจทำให้เป็นรอยถาวร
- อย่าใช้น้ำยาล้างจานเข้มข้นโดยตรงบนกระจก เพราะจะทิ้งคราบเหนียว
- ระวังไม่ให้ขอบกระจกเปียกน้ำมาก เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราในกรอบไม้หรืออลูมิเนียม